คริสตัล พาเลซ ทำผลงานได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการทีมมาเป็น โอลิเวอร์ กราสเนอร์ ที่มารับตำแหน่งต่อจาก รอย ฮอดจ์สัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลายเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ดีที่สุดของสโมสร เพราะจากวันนั้นถึงวันนี้ พวกเขาเปลี่ยนไปราวกับคนละทีม

เกมแรกที่ กราสเนอร์ ทำหน้าที่คุมทีมข้างสนามคือ นัดเปิดบ้านถล่ม เบิร์นลี่ย์ 3-0 หลังจากนั้นเป็นช่วงเวลาปรับจูนให้นักเตะเข้าใจกับแนวคิดใหม่ และวิธีการเล่นที่เขานำเข้ามาสู่ทีม พาเลซ ผ่านช่วงนั้นด้วยความขลุกขลัก ลงแข่งขันไป 7 เกม ชนะแค่นัดเดียวและแพ้ถึง 4 นัดด้วยกัน

แต่เมื่อทุกอย่างเริ่มลงตัว ‘ปราสาทเรือนแก้ว’ ก็แสดงตัวตนใหม่ให้ทุกคนได้เห็น มันมีแต่ชัดขึ้น ชัดขึ้น และชัดขึ้นเรื่อย ๆ จากผลงานเด่น ๆ อย่างวันที่บุกชนะ ลิเวอร์พูล ถึงถิ่น แอนฟิลด์ และเกมถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ศิโรราบกลับรัง 4-0

สื่อบางสำนักบรรยายถึงสิ่งที่ โอลิเวอร์ กราสเนอร์ ทำที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ว่า ‘เป็นการปฏิวัติ’

จาก กุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม เขาใช้เวลาเพียง 3 เดือน เปลี่ยน พาเลซ จากทีมหนึ่งไปเป็นอีกทีมหนึ่ง จากทีมที่เน้นเกมตั้งรับ รอฉกฉวยความผิดพลาดของคู่แข่ง แล้วเล่นโต้กลับด้วยความเร็วในเกมรุก มาเป็นทีมที่เน้นการบุก กล้าต่อบอลขึ้นเกม ใช้พรสวรรค์ของแข้งแนวรุกอย่างเต็มศักยภาพที่เขาเหล่านั้นมี

ไม่มีแล้ว ไอ้วิธีรอคู่แข่งพลาดถึงจะมองเห็นเส้นชัย แต่บีบบังคับให้คู่แข่งผิดพลาดเองเลยด้วยเกมเพรสซิ่งดุดัน ไล่บีบพื้นที่อย่างฉลาด แล้วสร้างเกมบุกของตัวเอง

ด้วยการที่ โอลิเวอร์ กราสเนอร์ เปลี่ยนแปลง คริสตัล พาเลซ ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชนไม่ใช่น้อย แม้จะไม่ถูกพูดถึงมากนักเพราะเป็นทีมเล็ก ๆ แต่เจ้าตัวก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ลูกทีมของเขาสามารถพวกสู้ได้ทุกทีมในแผ่นดินอังกฤษ ซึ่งผมก็หวังว่า ซีซั่นหน้า พาเลซ จะขึ้นบุกแย่งชิงพื้นที่ยุโรปกับทีมใหญ่ ๆ ได้บ้างนะ

เขียนโดย The Lite Team.
LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชม.